สูบบุหรีไฟฟ้าแล้วเวียนหัว แก้อย่างไร

สูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วเวียนหัว แก้อย่างไร?

ในหลาย ๆ ครั้ง ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าหลายคนอาจจะพบกับปัญหาเวียนหัวหลังจากสูบซึ่งมีปัจจัยไม่กี่อย่างที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ขึ้น อาทิเช่น ใช้น้ำยาผิดประเภท ในกรณีน้ำยาซอลนิค ที่หลายๆ คนที่เคยใช้บุหรี่ไฟฟ้ามาตั้งแต่ยุคแรกๆ จะทราบดีว่ามีปริมาณนิโคตินค่อนข้างสูง แต่สำหรับมือใหม่หลายคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้ามาก่อน หรือใช้บุหรี่ยาสูบแบบสมัยก่อน พอมาสูบน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เป็นน้ำยาซอลนิค อาจเกิดอาการเวียนหัวขึ้นมาได้ เนื่องจากน้ำยาซอลนิคถูกออกแบบมา เพื่อให้ตอบโจทย์ปริมาณความต้องการนิโคตินที่มากยิ่งขึ้นในปริมาณที่เหมาะสมกับผู้ใช้ อีกทั้งยังมีการออกแบบเพื่อให้ใช้งานกับหัวพอตรุ่นใหม่ๆ ที่พกพาสะดวก ใช้งานง่ายสูบแล้วไม่มีอาการกระแทกคอ

แต่อาการเวียนหัวที่กล่าวมาข้างต้นก็มิใช่ว่าเป็นเพียงเพราะใช้น้ำยาซอลนิคเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้คอยล์ไม่เหมาะสมกับน้ำยา นำน้ำยาที่ใช้กันกับพอตพกพารุ่นใหม่อันเล็กๆ ไปใช้กับพวกคอยล์อะตอม คอยล์แทงค์ที่ให้ไฟแรงๆ ตลอดจนปรับค่าโอห์มต่ำๆ เพื่อให้เกิดควันเยอะ แล้วตัวเครื่องไม่สามารถรองรับได้มากพอ เช่น บุหรี่ไฟฟ้าบางตัวที่เรียกว่า AIO (All in one) สามารถรองรับการใช้งานน้ำยาได้ทั้งสองแบบ แต่สิ่งสำคัญคือการปรับไฟให้เหมาะสมกับน้ำยาแต่ละประเภท ซึ่งถ้าเป็นน้ำยาซอลนิคไม่จำเป็นต้องปรับไฟให้แรง แต่ถ้าเป็นน้ำยาฟรีเบสก็สามารถปรับไฟไปเลยแล้วแต่ตามที่ต้องการหรือจะเป็นการสูบติดต่อกันตลอดแบบไม่มีพัก บางคนที่สูบถี่จนเกินไป ปอดก็อาจจะรับไม่ไหว สูบมากไปอาจจะทำให้แย่กว่าการสูบบุหรี่แบบมวนด้วยซ้ำ ตลอดจนการสูบแบบลากยาว ทำให้โอกาสที่นิโคตินจะเข้าไปในร่างกายเราในครั้งเดียวมีเยอะกว่าปริมาณที่ต้องการ ซึ่งอาจจะทำให้เวียนหัวหรือถึงขั้นน็อคได้

แก้อย่างไรเมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วเวียนหัว

1. ลดปริมาณนิโคตินลง

ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าร่างกายของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วปวดหัว บางคนร่างกายแข็งแรงสามารถรับนิโคตินปริมาณมากๆได้ ก็จะไม่มีอาการอะไรเลย ซึ่งทางที่ดีควรเริ่มใช้น้ำยาจากนิโคตินน้อย ๆ ก่อน เพื่อสังเกตตัวเองว่าสามารถสูบน้ำยาที่นิโคตินเท่าไหร่ได้ ยกตัวอย่างเช่น หากซื้อน้ำยานิโคติน 35mg มาสูบแล้วรู้สึกเวียนหัว ก็อาจจะเปลี่ยนมาซื้อน้ำยาที่มีค่านิโคตินต่ำลงมา เช่น 30mg 25mg 20mg ลดลงมาตามลำดับ ซึ่งนอกจากปริมาณนิโคตินที่เหมาะสมกับร่างกายแล้ว เรื่องความเย็นของน้ำยาก็มีผลเช่นกัน หากน้ำยาเย็นไปบางครั้งสูบก็จะทำให้เย็นขึ้นสมอง เพราะฉะนั้นควรประเมินว่าร่างกายของตนรับได้หรือไม่

2.เปลี่ยนคอยล์ให้มีค่าโอห์มสูงขึ้น

หากไม่สามารถหาน้ำยาที่มีค่านิโคตินต่ำ ๆ มาทดแทนได้ แนะนำให้แก้ปัญหาโดยการใช้คอยล์ที่มีค่าโอห์มสูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากใช้คอยล์เบอร์ 0.45Ω กับน้ำยานิโคติน 35mg อยู่ให้เปลี่ยนมาใช้คอยล์เบอร์ 0.6Ω หรือ 0.8Ω แล้วปรับไฟให้เหมาะสมกับคอยล์จะช่วยให้นิโคตินเบาลงได้อย่างมาก

3. ไม่ควรใช้บุหรี่ไฟฟ้าสลับกับบุหรี่จริง

อันนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เวียนหัวจากกลิ่นบุหรี่มวนที่ผู้สูบอาจไม่ชินหรือเลิกไปแล้ว แต่ยังจะทำให้เรารู้สึกแสบคอเมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้าอีกด้วย

เลือกน้ำยาบุหรีไฟฟ้าและปริมาณนิโคตินให้เหมาะกับตัว ไม่เวียนหัวอย่างแน่นอน

หากเป็นมือใหม่สำหรับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า จะมี 2 ข้อหลักที่ต้องพิจารณา นั่นก็คือ พฤติกรรมการสูบและประเภทของบุหรี่ไฟฟ้าที่จะใช้ เช่น ถ้าสูบบุหรี่วันละ 10 มวนต่อวัน ผู้สูบอาจจะต้องหาบุหรี่ไฟฟ้า ที่ทนทาน แบตเตอรี่ที่ใช้ได้นาน และใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีนิโคตินค่อนข้างสูงนั่นเอง โดยปกติน้ำยาของบุหรี่ไฟฟ้า จะมีเขียนด้านข้างขวดเป็นมิลลิกรัม เช่น 72 mg/mL โดยวิธีการคำนวณว่ามีนิโคตินเท่าไหร่นั้น ให้นำ 10 มาคูณจึงจะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์