เพื่อน ๆ เคยสงสัยกันไหมคะ ว่าทำไมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าถึงมีวันหมดอายุ หรือบางครั้งน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอาจมีรสชาติดีขึ้นหรือแย่ลงหลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่ง เพราะว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เองก็มีสารปรุงแต่ง ทั้งกลิ่นและรส ที่ต้องใช้เวลาในการจับกับตัวทำละลายอื่น ๆ ในส่วนผสม และนี่คือเหตุผลที่หลาย ๆ คนนิยมซื้อน้ำยาที่ถูกสตีฟมาแล้วเพื่อความเข้มข้นของรสชาติ และวันนี้ทีมงาน MOTI Thailand ก็จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักการสตีฟน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากันค่ะ

 

การสตีฟน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า คืออะไร ?

การสตีฟน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า คือ วิธีการที่ใช้ในการปรับปรุงรสชาติของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้นุ่มขึ้น มีรสชาติและกลิ่นที่เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยทำให้ส่วนผสมต่าง ๆ ในน้ำยารวมเป็นเนื้อเดียวกันในส่วนผสมที่สม่ำเสมอ ซึ่งกระบวนการสตีฟน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นคล้ายกับกระบวนการบ่มไวน์เพื่อให้ได้ไวน์ที่มีรสชาติที่ดีขึ้น อีกทั้งการสตีฟน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยให้ส่วนผสมต่าง ๆ ระเหย และสลายตัวทางเคมีได้ดีขึ้นด้วย แต่ทั้งนี้ยังไม่มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรสชาติในระดับโมเลกุลและการสตีฟที่เปลี่ยนแปลงรสชาติไปอย่างมีนัยสำคัญ และสิ่งที่เหมาะกับคนคนหนึ่งอาจจะไม่เหมือนกันคนอื่น ๆ ก็ได้ เนื่องจากกลิ่นและรสชาตินั้นเป็นเรื่องความชอบส่วนตัว นี่คือเหตุผลที่บางคนจะชอบซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกสตีฟมาแล้วเพื่อความเข้มข้นของรสชาติ เพราะบางคนพบว่าการสตีฟน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นสร้างความแตกต่างกว่าน้ำยาที่ทำออกมาใหม่ ๆ แต่บางคนก็พบว่าบางกลิ่นไม่จำเป็นต้องสตีฟ และบางคนก็ตั้งข้อสังเกตว่าน้ำยาบางกลิ่นมีรสชาติเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หากปล่อยทิ้งไว้สักพัก

 

 

วิธีการสตีฟน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทำอย่างไร ?

วิธีการสตีฟน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มีด้วยกันอยู่หลายวิธี แต่โดยพื้นฐานแล้วก็คือการปล่อยน้ำยาทิ้งไว้เฉยๆให้มีอายุมากขึ้นนั่นเอง ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการสตีฟก็คือ “เวลา” นอกจากนี้กลิ่นผสมอาหารบางชนิดที่ใส่มาในน้ำยาอาจมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมในปริมาณเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับรสชาตืที่ใช้ ซึ่งจะระเหยไปในระหว่างการสตีฟด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะเริ่มต้นสตีฟด้วยการวางขวดน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ปิดสนิทไว้ในที่เย็น (อุณหภูมิห้อง) และมืดสนิท เช่น ใส่ไว้ในกล่องซิการ์ ลิ้นชัก หรือตู้เก็บของเป็นระยะเวลาหนึ่ง และควรเขย่าขวดเป็นระยะ ๆ เพื่อช่วยเร่งกระบวนการสตีฟน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั่นเองค่ะ

 

โดยระยะเวลาในการสตีฟน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับกลิ่นของน้ำยา และการรับรู้กลิ่นของตัวผู้สูบเองเป็นหลัก กลิ่นของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าสายผลไม้มักจะต้องใช้เวลาในการสตีฟอย่างน้อย 3-7 วัน แต่กลิ่นน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าสายขนมและสายยาสูบ มักต้องการเวลาในการสตีฟนานกว่านั้น โดยขอแนะนำให้ปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์จึงจะเห็นผล ซึ่งเราจะสังเกตได้ถึงสีของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้มขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงตัวกลิ่นของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ควรจะมีทั้งกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้นขึ้นด้วยเช่นกันค่ะ

 

ถ้าหากเพื่อน ๆ รู้สึกว่ากลิ่นน้ำยายังใหม่ไปหรือเข้มข้นไม่เพียงพอ สามารถลองใช้วิธีสตีฟน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านี้เพื่อช่วยให้น้ำยาของมีกลิ่นและรสชาติที่ดีขึ้นได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่แอดมินเอามาฝากดูนะคะ และที่สำคัญ เมื่อพูดถึงน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ขายทั่วไปในตลาด อย่าลืมตรวจสอบขวดน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าของตัวเองดูว่ามีวันผลิตและวันหมดอายุหรือไม่ ซึ่งน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นจะมีอายุการเก็บรักษาที่แนะนำคือ 2 ปี  ดังนั้นให้ตรวจสอบความเป็นไปได้ที่จะทำการสตีฟด้วย หากน้ำยาเก่าเกินไป การสตีฟให้รสชาติดีขึ้นก็ไม่ช่วยอะไร