ต้นกำเนิดของบุหรี่ไฟฟ้า

 

ต้นกำเนิดของบุหรี่ไฟฟ้า

“บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์” หรือ “บุหรี่ไฟฟ้า” เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่โดดเด่นและ แพร่หลายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเราจะสังเกตเห็นนักสูบหน้าเก่าที่ต้องการเลิกบุหรี่หันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น รวมถึงนักสูบหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มสูบเช่นกัน ซึ่งบทความนี้ทาง MOTI THAILAND จะพาไปดูจุดเริ่มต้นของเจ้าบุหรี่ไฟฟ้ากันว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เกิดขึ้นมาในช่วงไหน หากพร้อมแล้วมาติดตามชมกันได้เลย 

 

บุหรี่ไฟฟ้า, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า, ขายบุหรี่ไฟฟ้า, หัวพอต, ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า, Moti, Pod, พอตmoti, บุหร่าไฟฟี้, motipop, motimbox, motikpro, motislite, motipod, motipiin, motixmini, motione

 

จุดเริ่มต้นของบุหรี่ไฟฟ้า

บุหรี่ไฟฟ้ารุ่นแรกได้รับการพัฒนาในอเมริกา ในปี 1963 เฮอร์เบิร์ต เอ. กิลเบิร์ตได้ยื่นขอสิทธิบัตรสำหรับ “บุหรี่ไร้ควันแบบไม่ใช้ยาสูบ” ของเขาและได้รับสิทธิบัตรในปี 1965 สิ่งประดิษฐ์ของกิลเบิร์ตไม่มีนิโคติน แต่เป็นการสร้างไอระเหยปรุงแต่งรสชาติที่ตั้งใจให้มาทดแทนควันบุหรี่ ซึ่งจริง ๆ แล้วกิลเบิร์ตมาไกลถึงจุดที่เขาสร้างต้นแบบของอุปกรณ์ดังกล่าว แต่ไม่ได้รับผลประโยชน์ทางการค้าที่แท้จริง แพทย์เพิ่งจะเริ่มเตือนถึงอันตรายของการสูบบุหรี่ในปี 1963 ณ เวลานั้น ผู้หญิงอเมริกันประมาณ 44% และผู้ชายอเมริกันกว่าครึ่งสูบบุหรี่ ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพ ดังนั้นจึงไม่มีใครมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยกว่านี้ อีกทั้งตอนนั้นเขายังพบความท้าทายทางเทคนิคบางอย่างด้วย ต้นแบบของกิลเบิร์ตนั้นใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ แต่เทคโนโลยีแบตเตอรี่ในช่วงต้นทศวรรษ 1960 นั้นยังล้าหลังอยู่มากเมื่อเทียบกับตอนนี้ แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้นั้น มีราคาแพงและมักจะหนัก แบตเตอรี่แบบธรรมดาก็ไม่ได้ราคาถูกและมีการจัดเก็บพลังงานที่จำกัด บุหรี่ไฟฟ้าตัวแรกเกิดขึ้นเร็วไปทั้งในแง่ของการยอมรับในสังคมและในแง่ของเทคโนโลยี และหลังจากที่กิลเบิร์ตได้รับสิทธิบัตร แนวคิดนี้ ก็จมหายไปในความมืดเป็นเวลาเกือบ 40 ปี

 

บุหรี่ไฟฟ้า, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า, ขายบุหรี่ไฟฟ้า, หัวพอต, ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า, Moti, Pod, พอตmoti, บุหร่าไฟฟี้, motipop, motimbox, motikpro, motislite, motipod, motipiin, motixmini, motione 

 

การค้นพบครั้งสำคัญ

ในปี 2001 บุหรี่ไฟฟ้าได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ฮอน ลิก ซึ่งเป็นเภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีน เขาทำงานในห้องปฏิบัติการวิจัยทางการเกษตร พ่อของเขาเพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดและ ฮอน ลิก เองก็สูบบุหรี่จัดมาก ตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะเลิกบุหรี่ เขาได้ลองใช้แผ่นแปะนิโคตินเหมือนกับคนอื่น ๆ และเช่นเดียวกับหลาย ๆ คน คือเขาพบว่ามันใช้ไม่ได้ผลดีเท่าไรนัก โชคดีที่เขามีทักษะและทรัพยากรที่จะลองทำอย่างอื่นดูบ้าง ฮอน ลิก เริ่มทดลองระบบการระเหย โดยทดสอบกับของเหลวหลายชนิดเพื่อค้นหาสิ่งที่สามารถจำลองความรู้สึกของการสูดดมควันบุหรี่ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจใช้โพรพิลีนไกลคอล ซึ่งเป็นวัตถุเจือปนอาหารทั่วไป สารนี้ไม่เป็นพิษ สร้างไอน้ำได้อย่างน่าพอใจและเป็นตัวทำละลายที่ดีสำหรับนิโคตินและสารปรุงแต่งรสชาติ โพรพิลีนไกลคอลยังคงเป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักในน้ำยา อีลิควิดจนถึงทุกวันนี้ ร่วมกับกลีเซอรีนจากผัก ในขณะที่เขากำลังมองหาน้ำยา ฮอน ลิก ใช้ระบบขนาดใหญ่ที่สร้างบนแผงคอนโซล ขั้นตอนต่อไปคือเปลี่ยนให้เป็นสิ่งที่ คนสามารถใช้ได้จริง ข้อได้เปรียบอย่างมากที่เขามีแต่เฮอร์เบิร์ต เอ. กิลเบิร์ตไม่มี ก็คือแบตเตอรี่ความจุสูงราคา ไม่แพง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสมัยใหม่แบบเดียวกับที่ใช้ในโทรศัพท์ ไอพอดและแล็ปท็อปสามารถจัดเก็บพลังงาน ได้เพียงพอที่จะจ่ายพลังงานให้บุหรี่ไฟฟ้าได้ครั้งละหลายชั่วโมง

ต้นแบบตัวแรก

ต้นแบบแรกของ ฮอน ลิก ใช้ตัวปล่อยอัลตราโซนิก ไอพ่นของของเหลวที่มีแรงดันสูงจะกลายเป็นไอน้ำของละอองขนาดเล็ก จากการสั่นสะเทือนด้วยความถี่สูงมาก เขาจดสิทธิบัตรต้นแบบนี้ในปี 2003 อย่างไรก็ดี เมื่อผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ชิ้นแรกเปิดตัวในปี 2004 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ได้ใช้ระบบอัลตราซาวด์ แต่ ฮอน ลิก เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์พ่นละอองโดยใช้ขดลวด ทำความร้อน โดยใช้หลักการเดียวกับต้นแบบดั้งเดิมของกิลเบิร์ต อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นตามมาทั้งหมดได้ใช้ระบบนี้ซึ่งสามารถผลิตไอได้มากขึ้นและร้อนขึ้นด้วย ซึ่งต่อมาได้แพร่หลายสู่สหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป โดยได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเพราะไม่มีกลิ่นหรือควัน สามารถสูบได้ทุกหนทุกแห่ง ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการสูบบุหรี่ นอกจากนี้ ยังมีคำ กล่าวอ้างสรรพคุณว่า สูบแล้วไม่เป็นอันตรายจากโรคมะเร็งอีกด้วย

 

 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับประวัติและความเป็นมาของบุหรี่ไฟฟ้า

บทความหน้าทาง MOTI THAILAND จะนำเรื่องอะไรมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันอีก

 รอติดตามได้เลยค่ะ